วันพฤหัสบดีที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

10 เทคนิคการสร้าง Link Popularity ให้กับบล็อก

การเพิ่มจำนวน Link Popularity เป็นอีกวิธีหนึ่งในกระบวนการทำ SEO ให้กับบล็อกของคุณ นอกเหนือจากการเพิ่ม Link Popularity แล้ว ยังเป็นการเพิ่มโอกาส ที่คนจะเข้ามาอ่านบล็อกของคุณมากขึ้นด้วย เพราะเป็นการเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงบล็อก ลองดู 10 เทคนิคการสร้าง Link Popularity ให้กับบล็อกของคุณกันดูดีกว่าครับ รับรองว่าสิ่งเหล่านี้ สามารถทำได้ง่าย ๆ ไม่ยากเลย

1. Link ไปหาบล็อกอื่น

วิธีที่ง่ายที่สุด ก็คือทำ link ไปหาบล็อกอื่น ๆ ที่คุณสนใจก่อนเลย นักเขียนบล็อกหลาย ๆ ท่านมักจะใจจดใจจ่อ อยู่ตลอดอยู่แล้วว่า จะมีใครทำ link มาหาบ้าง เมื่อคุณลิงค์ไปหาเค้าก่อน คุณก็อาจจะได้เป็นจุดสนใจ ทำให้เจ้าของบล็อกนั้น ๆ รู้จักบล็อกของคุณ คราวนี้แหละครับ ถ้าบล็อกเราดีจริง เค้าก็คงไม่รังเกียจที่จะทำ link มาหาเราแน่นอนครับ หรือถ้าให้ชัวร์ หลังจากที่คุณทำลิงค์ไปหาบล็อกอื่นแล้ว ลองเมล์ไปบอกเจ้าของบล็อกเค้าด้วยก็ดีครับ ว่าเราทำลิงค์ไปหาแล้วนะครับ

2. ไป Comment ที่บล็อกคนอื่นบ้าง

เวลาเราไปอ่านบล็อกคนอื่น ก็ไปเขียนคอมเม้นต์ไว้บ้างนะครับ มีคำแนะนำนิดนึงว่า อย่าไป spam comment เค้านะครับ เพราะขนาดเราเองยังรำคาญเวลามีคนมา spam comment ของเรา ใจเขาใจเราครับ

3. Submit บล็อกเข้าสู่ Search Engine ต่าง ๆ

ข้อนี้ต้องขยันนิดนึง เพราะคุณต้อง submit บล็อกของเราเข้าสู่ Search Engine ต่าง ๆ ทั้งไทยและต่างประเทศ ข้อได้เปรียบของบล็อกก็คือ คุณสามารถโปรโมทบล็อกไปสู่ search engine ของเว็บได้ และยังโปรโมทไปสู่ search engine เฉพาะทางเช่นพวก Blog Search Engine ได้อีกด้วย

4. ออกแบบบล็อกให้ดูดีสวยงาม

ถ้าคุณออกแบบบล็อกให้สวย ๆ หรือมีดีไซน์ที่โดดเด่นสะดุดตา คุณก็มีโอกาสที่จะโปรโมทเว็บของคุณที่ Rookienet หรือเว็บที่พูดคุยถึงเรื่องการดีไซน์เว็บ เป็นต้น

5. ใช้ CSS ในการออกแบบบล็อก

หากดีไซน์สวยแล้ว ยิ่งใช้ css ในการ coding เข้าไปอีก โอกาสยิ่งเพิ่มมากขึ้นเป็นทวีคูณ เพราะคุณจะมีโอกาสได้โปรโมทไปสู่ระดับโลก เช่นเว็บ CSSvault ซึ่งถ้าคุณออกแบบสวยและใช้ CSS คุณก็สามารถส่งบล็อกของคุณ เข้าไปให้เค้าพิจารณาได้ อ่านต่อ


วันพฤหัสบดีที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2552

กลยุทธ์การหาเงินจาก AdSense

Hosting

สำหรับผู้ที่ต้องการหารายได้เสริมแบบไม่ต้องลงเงิน... AdSense คือ คำตอบที่ดีที่สุดคำตอบหนึ่งในยุคนี้

สำหรับผู้ที่คลุกคลีอยู่ในแวดวงของธุรกิจออนไลน์คงจะได้ยินคำว่า “AdSense” กันมาบ้างแล้ว ซึ่งก็คือบริการจาก Google ที่เปิดให้คุณสามารถนำโฆษณาจาก Google ไปติดไว้ที่บล็อกหรือเว็บไซต์ของคุณได้ โดยที่คุณจะต้องสมัครของใช้บริการ AdSense เพื่อขอ Account ของตัวเองก่อน เพื่อที่ทาง Google จะได้ทราบว่าใครเป็นคนนำโฆษณาไปติด แล้วถ้ามีคนคลิกโฆษณานั้นจะต้องจ่ายเงินให้กับใคร

เงินค่าตอบแทนที่ได้จาก Google AdSense จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนต่อคลิก x จำนวนคลิก ดังนั้นหากมีคนเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์หรือบล็อกเป็นจำนวนมาก โอกาสที่ผู้เยี่ยมชมจะคลิกโฆษณา ก็จะมีมากขึ้น ซึ่งจะทำให้เรามีโอกาสได้เงินมากขึ้นไปด้วย

สำหรับโฆษณาของ Google AdSense จะมีอยู่ 3 ประเภท คือ AdSense for content, AdSense for search และ Google Referrals

AdSense for content แบ่งออกเป็นสองรูปแบบ คือ Ad unit ซึ่งจะเป็นป้ายแบนเนอร์ที่มีทั้งรูปภาพ และ/หรือข้อความ เมื่อมีการคลิกจะได้รับเงินทันที (ยกเว้นป้ายโฆษณาการกุศล) โดยราคาต่อคลิกจะขึ้นอยู่กับราคาของการประมูล Keyword ที่ผู้ลงโฆษณาผ่าน Google Adwords ทำการประมูลเข้ามา อีกประเภทคือ Link unit ที่มีลักษณะคล้ายกับ Menu หรือ Link เมื่อมีการคลิกจะยังไม่ได้เงินในทันที แต่จะได้เงินเมื่อมีการคลิกโฆษณาที่อยู่ในหน้า Link unit นั้น

AdSense for search จะคล้ายกับ Link unit เมื่อผู้เยี่ยมชมค้นหาข้อมูล ผ่าน Google Search ในเว็บไซต์หรือบล็อกของเราจะปรากฏผลลัพธ์ของการค้นหา ซึ่งการค้นหาสามารถค้นหาจากทั้งภายในเว็บไซต์หรือบล็อกของเรา และจะค้นหาจากเว็บไซต์อื่นๆ ซึ่งจะเหมือนกับการเข้าไปค้นหาด้วยเว็บ Google.com เพียงแต่จะมีส่วนที่เป็นโฆษณาเกิดขึ้นด้วย โดยเมื่อมีการคลิกในส่วนของโฆษณาก็จะได้เงินทันที

Google Referrals ขณะนี้มีโปรดักต์อยู่ 3 ตัวให้เรานำไปติดในเว็บไซต์ได้ คือ Google AdSense, Google AdWords และ Firefox plus Google Toolbar โดยรูปแบบโฆษณาของ Google จะได้ค่าตอบแทนเมื่อมีผู้เยี่ยมชมคลิกป้ายแบนเนอร์ผ่านเว็บไซต์หรือบล็อกของ เราแล้วทำการสมัครใช้ ซึ่งอัตราค่าตอบแทนของโปรดักต์ที่นำมาติดจะแตกต่างกันไป อ่านต่อ


วันพุธที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ศูนย์รวมเว็บไซต์ทั่วโลก แปลเป็นไทย

เป้าหมายหนึ่งของบริษัทเอเชีย ออนไลน์ คือทำให้ทุกชาติในภูมิภาคเอเชียเข้าถึงองค์ความรู้และข้อมูลในระดับเดียวกับ ประเทศพัฒนาแล้วทางเศรษฐกิจของโลก ทางบริษัทเริ่มต้นด้วยการสร้างหน้าเว็บข้อมูลความรู้เชิงการศึกษาขึ้นเป็ภ าษาไทยกว่า 3 ล้านหน้าเว็บ โดยโครงการจับคู่ภาษาได้ใช้เทคโนโลยีการแปลที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ ซึ่งเรียนรู้จากทักษะการรู้การจำของมนุษย์ เพื่อให้ได้การแปลเนื้อหาจากสารทั่วโลกที่มีคุณภาพดี สารที่แปลแล้วสามารถเข้าอ่านได้ฟรีสำหรับคนไทยทุกคนผ่านทางเว็บศูนย์รวมภาษา ไทยของเอเชีย ออนไลน์

Hosting

กรุงเทพมหานคร ณ วันที่ 3 กันยายน 2008 เอเชีย ออนไลน์ประกาศเปิดตัวเว็บศูนย์รวม (portal) ภาษาไทยรูปแบบทดลองใช้ โดยเพิ่มปริมาณข้อมูลขึ้นเป็นสองเท่าจากที่เคยมีอยู่ 3 ล้านหน้าเว็บ เป็นทั้งหมดกว่า 6 ล้านหน้าเว็บ

เอเชีย ออนไลน์ได้รับการลงความเห็นว่าเป็น “โครงการเรียนรู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก” ด้วยการเข้าถึงสารได้ง่ายขึ้นจากการแปลเป็นภาษาไทยกว่าสามล้านหัวเรื่อง จากแหล่งข้อมูลที่สำคัญและได้รับความนิยมที่สุดในปัจจุบัน ประกอบด้วยวิกิพีเดีย (Wikipedia), ซีไอเอเวิรล์ดแฟคบุ๊ค (CIA World Fact Book) และหนังสืออีกกว่า 25,000 เล่ม แหล่งข้อมูลที่อุดมไปด้วยความรู้เหล่านี้ได้พิสูจน์ถึงการเป็นแรงกระตุ้น สำคัญของการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและการศึกษาในกลุ่มประเทศที่พัฒนาทางเศษรฐกิจ แล้ว

นายดิออน วิกกินส์ ประธานกรรมการบริหารของเอเชีย ออนไลน์ กล่าวว่า “เป้าหมายของเราคือการให้เครื่องมือและข้อมูลทุกอย่างที่ประเทศไทยต้องการ เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในยุคที่ความรู้คือปัจจัยสำคัญของเศรษฐกิจทั่วโลก ทุกวันนี้ภาษาไทยมีให้อ่านกันบนอินเตอร์เน็ตน้อยเกินควรอย่างน่าเศร้า เช่นเดียวกับภาษาอื่นในเอเชียอีกหลายภาษา ส่งผลให้คนส่วนใหญ่ทั่วภูมิภาคเอเชียถูกปิดกั้นการได้รับประโยชน์ที่ใหญ่ที่ สุดของอินเตอร์เน็ต นั่นคือการเข้าถึงข้อมูลและองค์ความรู้ที่มีค่า แต่ด้วยการแปลเนื้อหาทางการศึกษาที่สำคัญและมีคุณค่าอย่างมากมายเป็นภาษาไทย เราได้ขจัดอุปสรรคสุดท้ายในการใช้อินเตอร์เน็ตในประเทศไทย นั่นคืออุปสรรคด้านภาษา”

เอเชีย ออนไลน์ ให้ความสำคัญกับสารที่จะส่งผลดีต่อประเทศไทย นั่นคือสารด้านการศึกษา, วิทยาศาสตร์, วิศวกรรมศาสตร์, วัฒนธรรม, คณิตศาสตร์, ประวัติศาสตร์, การอ่านออกเขียนได้, การเมือง และศิลปะ สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะเพิ่มเว็บไซต์ภาษาไทยมากขึ้นเป็นสองเท่าจากที่มี อยู่เดิม แต่ยังเป็นเหตุที่มีค่าและกระตุ้นให้คนไทยเข้ามาใช้อินเตอร์เน็ตมากขึ้น

“เรากำลังจะทำข้อมูลทั้งหมดนี้ให้เป็นข้อมูลบนอินเตอร์เน็ตที่สามารถ เข้าถึงได้และอ่านได้ฟรีทางเว็บศูนย์รวมเอเชีย ออนไลน์ภาษาไทย ปัจจุบันเว็บศูนย์รวมภาษาไทยของเรายังเป็นรูปแบบทดลองใช้งานอยู่ ในระหว่างที่เราทำการปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพของการแปล และเพิ่มหน้าข้อมูลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง” นายวิกกินส์กล่าว “นี่คือภาระที่ใหญ่มากและจะต้องใช้เวลาและการสนับสนุนจากคนในประเทศอีกพอ สมควร ให้สมกับว่านี่คือโครงการเรียนรู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก” อ่านต่อ


วันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

5 เหตุผล ทำไมคนไม่เข้าเว็บไซต์คุณ

หลายๆ เว็บไซต์ที่ทำเสร็จแล้วหรือเปิดให้บริการอยู่ ซี่งบางเว็บไซต์อาจมีการออกแบบและจัดทำเว็บไซต์ไว้อย่างเริ่ดหรูอลังการงานสร้าง หรือบางแห่งถึงกับใช้เงินนับแสนๆ บาทเพื่อจัดทำเว็บขึ้นมา แต่ส่วนใหญ่มักพบปัญหาคือ “ไม่ค่อยมีคนเข้าเว็บเท่าไร” วันนี้เราลองมาวิเคราะห์สาเหตุส่วนใหญ่ที่ไม่ค่อยมีคนเข้าเว็บไซต์กันคืออะไรกัน

1. ไม่รู้จักเว็บไซต์ของคุณ
2. จำชื่อเว็บไซต์คุณไม่ได้
3. เว็บไซต์ไม่น่าสนใจ
4. เว็บไซต์ไม่อัพเดท
5. เว็บไซต์คู่แข่งคุณดีกว่า น่าสนใจกว่า

รายละเอียดเพิ่มเติม


วันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2551

E-Marketing คืออะไร? ประกอบด้วยอะไร และทำอย่างไร?

การตลาดอิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การดำเนินกิจกรรมทางการตลาดใช้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ เช่น คอมพิวเตอร์ เป็นเครื่องมือในการดำเนินกิจการทางการตลาดกับกลุ่มเป้าหมาย เป็นกิจกรรมที่เป็นการสื่อสารแบบ 2 ทาง และกิจกรรมที่นักการตลาดสามารถติดต่อกับผู้บริโภคได้ทั่วโลกและตลอดเวลา


ลักษณะพิเศษการตลาดแบบอิเล็กทรอนิกส์


  • ตลาดเป็นการเฉพาะเจาะจง (Niche Market) ลูกค้ามาที่เว็บไซต์มีจุดมุ่งหมายจะซื้อสินค้าที่เขาอยากได้
  • เป็นการแบ่งส่วนตลาดเชิงพฤติกรรม (Behavioral Segmentation) การจัดกลุ่มลูกค้าพิจารณาจากความสนใจคุณค่าที่ลูกค้าให้ต่อสินค้า หรือบริการใดบริการหนึ่ง และวิถีชีวิตของลูกค้า ซึ่งปัจจัยเหล่านี้เป็นสิ่งกำหนดพฤติกรรมของลูกค้า
  • เป็นการตลาดแบบตัวต่อตัว (Personalize Marketing/P - Marketing) ลูกค้าสามารถกำหนดรูปแบบของสินค้าและบริการได้ตามความต้องการซึ่งอาจจะแตกต่างกับผู้อื่น
    ลูกค้ากระจายอยู่ทั่วโลก เพราะระบบอินเทอร์เน็ตสามารถเข้าถึงได้ทุกพื้นที่ทั่วโลก ทำให้ตลาดกว้างใหญ่ไพศาล
  • ทำธุรกิจได้ตลอดเวลา ผู้ขายสามารถเปิดขายได้ 365 วัน 24 ชม.
  • ข้อมูลของสินค้าและบริการเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค เพราะผู้บริโภคจะรู้จักและเกิดความรู้ในสินค้า (Product Knowledge) จากข้อมูลคอมพิวเตอร์ เขาไม่มีพนักงานขายคอยแนะนำ
  • ธุรกิจออนไลน์เป็นกิจกรรมทางการตลาดแบบผสม บนเว็บไซต์การโฆษณาประชาสัมพันธ์ขาย การชำระเงิน และกิจกรรมอื่นๆ ที่ทำให้เกิดการขายสินค้าอยู่ร่วมกันในเว็บไซต์ เป็นการสื่อสาร 2 ทาง ผู้ซื้อกับขายสามารถโต้ตอบกันได้ทันที
  • เป็นการดำเนินธุรกิจที่ต้นทุนต่ำ เพราะใช้บุคลากรจำนวนน้อย การสื่อสารการตลาดทำได้รวดเร็วและเปลี่ยนแปลงได้ง่าย ในระบบอิเล็กทรอนิกส์ผู้ขายสามารถจัดทำได้รวดเร็วและราคาถูก นอกจากนี้ธุรกิจเหล่านี้ยังไม่จำเป็นต้องมีทรัพย์สินถาวรที่สูง เช่น สถานที่ทำงาน อุปกรณ์สำนักงาน เพราะติดต่อกับลูกค้าบนจอคอมพิวเตอร์เท่านั้น
  • สินค้าบางประเภทจะถูกจัดวางให้ลูกค้าในระยะเวลาอันรวดเร็ว เช่น การดาวน์โหลดเพลง หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์

อ่านต่อ


วันอังคารที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2551

สุดยอดเว็บไซต์เพื่อคนไทยที่มีหัวใจใฝ่รู้

ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมานี้ มีข่าวเด็กไทยคว้ารางวัลทางด้านวิชาการ

ระดับโอลิมปิกอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งในระดับอุดมศึกษาที่สามารถสร้างผลงานกับเทคโนโลยีของหุ่นยนต์ใน

ระดับนานาชาติด้วยเช่นกัน ใครเป็นพ่อแม่ ผู้ปกครอง หรือแม้แต่ครู อาจารย์ คงปลื้มใจกันยกใหญ่
อ่านต่อ

วันพุธที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2551

การทำตลาดผ่าน Search Engine Marketing

เมื่อเรารู้ว่า Search Engine ทำงานอย่างไร? และรู้จักวิธีการค้นหาคำต่าง ๆ ด้วยเว็บไซต์ค้นหาแล้ว เราต้องหาวิธีที่จะเข้าไปเพิ่มชื่อ (Submission) เว็บไซต์ของเรา เพื่อให้ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตกว่าพันล้านคนรู้จัก ด้วยคำที่เราต้องการให้คนค้นหาพบ (Key Word) ซึ่ง เทคนิคและขั้นตอนต่าง ๆ ในการทำให้เว็บไซต์ค้นหา รู้จักเรามีอยู่หลายวิธี ดังต่อไปนี้

จัดเตรียมเนื้อหาของเว็บไซต์ให้ตรงกับคำที่ต้องการจะค้นหา เช่น เราทำเว็บไซต์ขึ้นมาเพื่อที่จะขายโฮสติ้ง(Hosting) เราก็ต้องใส่เนื้อหาที่มีคำว่า โฮสติ้ง(Hosting) ไปในทุก ๆ หน้าของเว็บไซต์ของเรา โดยเรามีจุดมุ่งหมายที่ว่า "ให้คนที่ต้องการเช่าพื้นที่เว็บไซต์ (Hosting)" หาเว็บไซต์ของเราเจอ โดย เน้นเนื้อหาให้มีความว่า โฮสติ้ง(Hosting) ปรากฏอยู่ ในทุกๆ ย่อหน้าหรือทุก ๆ หน้าในเว็บไซต์ของเรา ซึ่งในเอกสาร HTML ของเราจะมีการใส่ แทกส์ ที่ทำไว้สำหรับ เว็บไซต์ค้นหา โดยเฉพาะ เราก็ใส่คำค้นหาของเราเข้าไปใน แทกส์ นั้น ๆ (ควรศึกษาเพิ่มเติมในเรื่องการเขียนเว็บไซต์ด้วยภาษา HTML)

เมื่อจัดเตรียมข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งใส่ แทกส์ที่จำเป็นแล้ว ก็ถึงขั้นตอนการบอกให้ เว็บไซต์ค้นหา รู้จักเว็บไซต์ของเรา โดย เราจะต้องเข้าไปที่ เว็บไซต์ค้นหาต่าง ๆ ที่เป็นที่นิยมของคนทั่วโลก หรือ Major Search Engine & Web Directory นั่นเอง เช่น Google Yahoo MSN AOL Dmoz เนื่องจากว่า 90% ของผู้ใช้ อินเตอร์เน็ตทั่วโลก ใช้เว็บไซต์ค้นหาเหล่านี้ ซึ่งเทคนิคการ นำเว็บของเราไปเพิ่มชื่อใน Major Search Engine & Web Directory ก็แตกต่างกันไป และ มีทั้งเพิ่มชื่อแบบฟรีและเสียเงิน
อ่านต่อ