วันพุธที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ศูนย์รวมเว็บไซต์ทั่วโลก แปลเป็นไทย

เป้าหมายหนึ่งของบริษัทเอเชีย ออนไลน์ คือทำให้ทุกชาติในภูมิภาคเอเชียเข้าถึงองค์ความรู้และข้อมูลในระดับเดียวกับ ประเทศพัฒนาแล้วทางเศรษฐกิจของโลก ทางบริษัทเริ่มต้นด้วยการสร้างหน้าเว็บข้อมูลความรู้เชิงการศึกษาขึ้นเป็ภ าษาไทยกว่า 3 ล้านหน้าเว็บ โดยโครงการจับคู่ภาษาได้ใช้เทคโนโลยีการแปลที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ ซึ่งเรียนรู้จากทักษะการรู้การจำของมนุษย์ เพื่อให้ได้การแปลเนื้อหาจากสารทั่วโลกที่มีคุณภาพดี สารที่แปลแล้วสามารถเข้าอ่านได้ฟรีสำหรับคนไทยทุกคนผ่านทางเว็บศูนย์รวมภาษา ไทยของเอเชีย ออนไลน์

Hosting

กรุงเทพมหานคร ณ วันที่ 3 กันยายน 2008 เอเชีย ออนไลน์ประกาศเปิดตัวเว็บศูนย์รวม (portal) ภาษาไทยรูปแบบทดลองใช้ โดยเพิ่มปริมาณข้อมูลขึ้นเป็นสองเท่าจากที่เคยมีอยู่ 3 ล้านหน้าเว็บ เป็นทั้งหมดกว่า 6 ล้านหน้าเว็บ

เอเชีย ออนไลน์ได้รับการลงความเห็นว่าเป็น “โครงการเรียนรู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก” ด้วยการเข้าถึงสารได้ง่ายขึ้นจากการแปลเป็นภาษาไทยกว่าสามล้านหัวเรื่อง จากแหล่งข้อมูลที่สำคัญและได้รับความนิยมที่สุดในปัจจุบัน ประกอบด้วยวิกิพีเดีย (Wikipedia), ซีไอเอเวิรล์ดแฟคบุ๊ค (CIA World Fact Book) และหนังสืออีกกว่า 25,000 เล่ม แหล่งข้อมูลที่อุดมไปด้วยความรู้เหล่านี้ได้พิสูจน์ถึงการเป็นแรงกระตุ้น สำคัญของการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและการศึกษาในกลุ่มประเทศที่พัฒนาทางเศษรฐกิจ แล้ว

นายดิออน วิกกินส์ ประธานกรรมการบริหารของเอเชีย ออนไลน์ กล่าวว่า “เป้าหมายของเราคือการให้เครื่องมือและข้อมูลทุกอย่างที่ประเทศไทยต้องการ เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในยุคที่ความรู้คือปัจจัยสำคัญของเศรษฐกิจทั่วโลก ทุกวันนี้ภาษาไทยมีให้อ่านกันบนอินเตอร์เน็ตน้อยเกินควรอย่างน่าเศร้า เช่นเดียวกับภาษาอื่นในเอเชียอีกหลายภาษา ส่งผลให้คนส่วนใหญ่ทั่วภูมิภาคเอเชียถูกปิดกั้นการได้รับประโยชน์ที่ใหญ่ที่ สุดของอินเตอร์เน็ต นั่นคือการเข้าถึงข้อมูลและองค์ความรู้ที่มีค่า แต่ด้วยการแปลเนื้อหาทางการศึกษาที่สำคัญและมีคุณค่าอย่างมากมายเป็นภาษาไทย เราได้ขจัดอุปสรรคสุดท้ายในการใช้อินเตอร์เน็ตในประเทศไทย นั่นคืออุปสรรคด้านภาษา”

เอเชีย ออนไลน์ ให้ความสำคัญกับสารที่จะส่งผลดีต่อประเทศไทย นั่นคือสารด้านการศึกษา, วิทยาศาสตร์, วิศวกรรมศาสตร์, วัฒนธรรม, คณิตศาสตร์, ประวัติศาสตร์, การอ่านออกเขียนได้, การเมือง และศิลปะ สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะเพิ่มเว็บไซต์ภาษาไทยมากขึ้นเป็นสองเท่าจากที่มี อยู่เดิม แต่ยังเป็นเหตุที่มีค่าและกระตุ้นให้คนไทยเข้ามาใช้อินเตอร์เน็ตมากขึ้น

“เรากำลังจะทำข้อมูลทั้งหมดนี้ให้เป็นข้อมูลบนอินเตอร์เน็ตที่สามารถ เข้าถึงได้และอ่านได้ฟรีทางเว็บศูนย์รวมเอเชีย ออนไลน์ภาษาไทย ปัจจุบันเว็บศูนย์รวมภาษาไทยของเรายังเป็นรูปแบบทดลองใช้งานอยู่ ในระหว่างที่เราทำการปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพของการแปล และเพิ่มหน้าข้อมูลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง” นายวิกกินส์กล่าว “นี่คือภาระที่ใหญ่มากและจะต้องใช้เวลาและการสนับสนุนจากคนในประเทศอีกพอ สมควร ให้สมกับว่านี่คือโครงการเรียนรู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก” อ่านต่อ


วันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

5 เหตุผล ทำไมคนไม่เข้าเว็บไซต์คุณ

หลายๆ เว็บไซต์ที่ทำเสร็จแล้วหรือเปิดให้บริการอยู่ ซี่งบางเว็บไซต์อาจมีการออกแบบและจัดทำเว็บไซต์ไว้อย่างเริ่ดหรูอลังการงานสร้าง หรือบางแห่งถึงกับใช้เงินนับแสนๆ บาทเพื่อจัดทำเว็บขึ้นมา แต่ส่วนใหญ่มักพบปัญหาคือ “ไม่ค่อยมีคนเข้าเว็บเท่าไร” วันนี้เราลองมาวิเคราะห์สาเหตุส่วนใหญ่ที่ไม่ค่อยมีคนเข้าเว็บไซต์กันคืออะไรกัน

1. ไม่รู้จักเว็บไซต์ของคุณ
2. จำชื่อเว็บไซต์คุณไม่ได้
3. เว็บไซต์ไม่น่าสนใจ
4. เว็บไซต์ไม่อัพเดท
5. เว็บไซต์คู่แข่งคุณดีกว่า น่าสนใจกว่า

รายละเอียดเพิ่มเติม


วันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2551

E-Marketing คืออะไร? ประกอบด้วยอะไร และทำอย่างไร?

การตลาดอิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การดำเนินกิจกรรมทางการตลาดใช้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ เช่น คอมพิวเตอร์ เป็นเครื่องมือในการดำเนินกิจการทางการตลาดกับกลุ่มเป้าหมาย เป็นกิจกรรมที่เป็นการสื่อสารแบบ 2 ทาง และกิจกรรมที่นักการตลาดสามารถติดต่อกับผู้บริโภคได้ทั่วโลกและตลอดเวลา


ลักษณะพิเศษการตลาดแบบอิเล็กทรอนิกส์


  • ตลาดเป็นการเฉพาะเจาะจง (Niche Market) ลูกค้ามาที่เว็บไซต์มีจุดมุ่งหมายจะซื้อสินค้าที่เขาอยากได้
  • เป็นการแบ่งส่วนตลาดเชิงพฤติกรรม (Behavioral Segmentation) การจัดกลุ่มลูกค้าพิจารณาจากความสนใจคุณค่าที่ลูกค้าให้ต่อสินค้า หรือบริการใดบริการหนึ่ง และวิถีชีวิตของลูกค้า ซึ่งปัจจัยเหล่านี้เป็นสิ่งกำหนดพฤติกรรมของลูกค้า
  • เป็นการตลาดแบบตัวต่อตัว (Personalize Marketing/P - Marketing) ลูกค้าสามารถกำหนดรูปแบบของสินค้าและบริการได้ตามความต้องการซึ่งอาจจะแตกต่างกับผู้อื่น
    ลูกค้ากระจายอยู่ทั่วโลก เพราะระบบอินเทอร์เน็ตสามารถเข้าถึงได้ทุกพื้นที่ทั่วโลก ทำให้ตลาดกว้างใหญ่ไพศาล
  • ทำธุรกิจได้ตลอดเวลา ผู้ขายสามารถเปิดขายได้ 365 วัน 24 ชม.
  • ข้อมูลของสินค้าและบริการเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค เพราะผู้บริโภคจะรู้จักและเกิดความรู้ในสินค้า (Product Knowledge) จากข้อมูลคอมพิวเตอร์ เขาไม่มีพนักงานขายคอยแนะนำ
  • ธุรกิจออนไลน์เป็นกิจกรรมทางการตลาดแบบผสม บนเว็บไซต์การโฆษณาประชาสัมพันธ์ขาย การชำระเงิน และกิจกรรมอื่นๆ ที่ทำให้เกิดการขายสินค้าอยู่ร่วมกันในเว็บไซต์ เป็นการสื่อสาร 2 ทาง ผู้ซื้อกับขายสามารถโต้ตอบกันได้ทันที
  • เป็นการดำเนินธุรกิจที่ต้นทุนต่ำ เพราะใช้บุคลากรจำนวนน้อย การสื่อสารการตลาดทำได้รวดเร็วและเปลี่ยนแปลงได้ง่าย ในระบบอิเล็กทรอนิกส์ผู้ขายสามารถจัดทำได้รวดเร็วและราคาถูก นอกจากนี้ธุรกิจเหล่านี้ยังไม่จำเป็นต้องมีทรัพย์สินถาวรที่สูง เช่น สถานที่ทำงาน อุปกรณ์สำนักงาน เพราะติดต่อกับลูกค้าบนจอคอมพิวเตอร์เท่านั้น
  • สินค้าบางประเภทจะถูกจัดวางให้ลูกค้าในระยะเวลาอันรวดเร็ว เช่น การดาวน์โหลดเพลง หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์

อ่านต่อ


วันอังคารที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2551

สุดยอดเว็บไซต์เพื่อคนไทยที่มีหัวใจใฝ่รู้

ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมานี้ มีข่าวเด็กไทยคว้ารางวัลทางด้านวิชาการ

ระดับโอลิมปิกอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งในระดับอุดมศึกษาที่สามารถสร้างผลงานกับเทคโนโลยีของหุ่นยนต์ใน

ระดับนานาชาติด้วยเช่นกัน ใครเป็นพ่อแม่ ผู้ปกครอง หรือแม้แต่ครู อาจารย์ คงปลื้มใจกันยกใหญ่
อ่านต่อ

วันพุธที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2551

การทำตลาดผ่าน Search Engine Marketing

เมื่อเรารู้ว่า Search Engine ทำงานอย่างไร? และรู้จักวิธีการค้นหาคำต่าง ๆ ด้วยเว็บไซต์ค้นหาแล้ว เราต้องหาวิธีที่จะเข้าไปเพิ่มชื่อ (Submission) เว็บไซต์ของเรา เพื่อให้ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตกว่าพันล้านคนรู้จัก ด้วยคำที่เราต้องการให้คนค้นหาพบ (Key Word) ซึ่ง เทคนิคและขั้นตอนต่าง ๆ ในการทำให้เว็บไซต์ค้นหา รู้จักเรามีอยู่หลายวิธี ดังต่อไปนี้

จัดเตรียมเนื้อหาของเว็บไซต์ให้ตรงกับคำที่ต้องการจะค้นหา เช่น เราทำเว็บไซต์ขึ้นมาเพื่อที่จะขายโฮสติ้ง(Hosting) เราก็ต้องใส่เนื้อหาที่มีคำว่า โฮสติ้ง(Hosting) ไปในทุก ๆ หน้าของเว็บไซต์ของเรา โดยเรามีจุดมุ่งหมายที่ว่า "ให้คนที่ต้องการเช่าพื้นที่เว็บไซต์ (Hosting)" หาเว็บไซต์ของเราเจอ โดย เน้นเนื้อหาให้มีความว่า โฮสติ้ง(Hosting) ปรากฏอยู่ ในทุกๆ ย่อหน้าหรือทุก ๆ หน้าในเว็บไซต์ของเรา ซึ่งในเอกสาร HTML ของเราจะมีการใส่ แทกส์ ที่ทำไว้สำหรับ เว็บไซต์ค้นหา โดยเฉพาะ เราก็ใส่คำค้นหาของเราเข้าไปใน แทกส์ นั้น ๆ (ควรศึกษาเพิ่มเติมในเรื่องการเขียนเว็บไซต์ด้วยภาษา HTML)

เมื่อจัดเตรียมข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งใส่ แทกส์ที่จำเป็นแล้ว ก็ถึงขั้นตอนการบอกให้ เว็บไซต์ค้นหา รู้จักเว็บไซต์ของเรา โดย เราจะต้องเข้าไปที่ เว็บไซต์ค้นหาต่าง ๆ ที่เป็นที่นิยมของคนทั่วโลก หรือ Major Search Engine & Web Directory นั่นเอง เช่น Google Yahoo MSN AOL Dmoz เนื่องจากว่า 90% ของผู้ใช้ อินเตอร์เน็ตทั่วโลก ใช้เว็บไซต์ค้นหาเหล่านี้ ซึ่งเทคนิคการ นำเว็บของเราไปเพิ่มชื่อใน Major Search Engine & Web Directory ก็แตกต่างกันไป และ มีทั้งเพิ่มชื่อแบบฟรีและเสียเงิน
อ่านต่อ

วันศุกร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

10 จุดสุดยอดในการใช้ Keyword ในการทำ Search Engine

การใช้ Keyword ในการทำ Search engine หลายคนที่เป็นมือใหม่อาจไม่มั่นใจหรือใช้ได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร แต่บทความนี้อาจเป็นแนวทางให้สำหรับผู้ที่ยังไม่มั่นใจหรือยังไม่รู้ว่าจะใช ้ยังไง ได้ไม่มากก็น้อยนะอย่ามัวเสียเวลาเริ่มต้นกันเลย


  1. ใช้ keyword ที่บริเวณ ชื่อหน้าเพจ (Title)
    ให้เราใส่ Keyword ที่เราต้องการจะใส่โดยให้น้ำหนักจากการเรียงจาก ซ้ายไปขวา
    ตัวอย่างการใช้งาน : [title] keyword หลัก , keyword รอง , keyword อื่นๆ [/title] เป็นต้น


  2. ใช้ keyword ที่บริเวณ ชื่อหัวข้อของเนื้อหา (Heading tag)
    โดยการใช้ H1,H2,H3 เป็นต้น
    ตัวอย่างการใช้งาน : [H1] Keyword [/h1] หรือ [H2] Keyword [/H2] เป็นต้น


    อ่านต่อ

    วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

    จุฬาฯ ทำนายสึนามิผ่านซูเปอร์คอมพ์

    จุฬาฯ อาศัยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ประมวลผลคลื่นใต้ทะเลจากแผ่นดินไหว สร้างแบบจำลองทำนายสึนามิ ช่วยให้การเตือนภัยล่วงหน้าทำได้รวดเร็วและแม่นยำ


    ผศ.ดร.อาณัติเรืองรัศมี ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านวิศวกรรมแผ่นดินไหวและการสั่นสะเทือน ภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ทีมวิจัยจำลองการเกิดสึนามิด้วยการคำนวณความเร็วสูง เพื่อเตรียมการเตือนภัยล่วงหน้า โดยอาศัยระบบคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง หรือกริดคอมพิวติ้ง เข้ามาช่วยให้การประมวลผลและวิเคราะห์ผลรวดเร็วขึ้น
    อ่านต่อ

    วันพฤหัสบดีที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2551

    26 ขั้นตอนการสร้างเว็บไซต์ให้ยอดวันละหมื่นห้า

    เคล็ดไม่ลับ การสร้างเว็บไซต์ให้ผู้เข้าชมติดใจเว็บไซต์คุณ หากคุณทำตามขั้นตอนเหล่านี้อย่างเคร่งครัด คุณจะประสบความสำเร็จภายในหนึ่งปี ถ้าเว็บไซต์ของคุณเป็นภาษาอังกฤษ แต่ถ้าเป็นภาษาไทย ยอดน่าจะได้ประมาณ 2000 คนต่อวัน หลายๆคนอาจจะไม่เชื่อว่าเป็นไปได้ ผมเองก็ไม่อยากจะเชื่อ แต่ไม่เชื่อนั่นแหละดี เราจะได้พิสูจน์กันไปพร้อมๆกันเลยว่า อีกหนึ่งปีข้างหน้า ยอดเว็บของเราจะพุ่งถึง 2000 คนต่อวัน จริงหรือเปล่า? ลองมาทำตามไปพร้อมๆกันเลยครับ (บทความนี้ เน้นถึงการทำเว็บไซต์ที่เหมาะกับ Search Engine และดึงผู้เข้าชมจาก Search Engine เป็นหลัก) อ่านต่อ


    วันพุธที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2551

    IT Knowledge

    E-Commerce

    E-Commerce มะกันทะลุแสนล้านเหรียญ
    การสำรวจธุรกิจออนไลน์ของสหรัฐฯ พบว่าเม็ดเงินที่ชาวอเมริกันใช้จับจ่ายซื้อสินค้าและบริการผ่านเว็บไซต์นั้น มีมูลค่าเกิน 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ถือเป็นหลักไมล์ใหม่ที่เป็นสัญญาณบอกว่าอุตสาหกรรมนี้น่าจะเติบโตต่อเนื่องไ ปอีกหลายปีข้างหน้า

    อ่านต่อ

    ทำไมจะต้องมีกฎหมายสำหรับ E-Commerce
    ถ้าไม่มีกฎหมาย e-commerce แล้ว เราจะค้าขายกันบนสื่ออิเลกทรอนิกส์ หรือค้าขายกันบนอินเทอร์เนตไม่ได้หรอ ความเป็นจริงแล้วถึงไม่มีกฎหมาย e-commerce เราก็ค้าขายกันได้ ถึงแม้บางส่วนจะไม่ครบวงจร
    อ่านต่อ

    E-Commerce ช่องทางการตลาดใหม่ ดีหรือไม่ อย่างไร
    เมื่อ Internet มีการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว รวดเร็วมากจนน่าทึ่ง Internet จึงกลายเป็นช่องทางค้าขายที่น่าสนใจ แต่ช่องทางนี้จะเป็นช่องทางการตลาดที่ดีหรือไม่นั้น มาหาคำตอบกัน

    อ่านต่อ

    Internet

    เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ออนไลน์
    เมื่อโลกออนไลน์กลายเป็นชีวิตประจำวัน ก็ย่อมทำให้ข่าวสารทันสมัยฉับไวขึ้นทันตาเห็น ใครอยากรู้ข่าวคราวความเคลื่อนไหวอะไรก็ไม่ต้องรอเด็กส่งหนังสือพิมพ์อีกต่อไปแล้ว เพียงแค่เปิดคอมพ์เข้าเว็บแล้วก็เลือกคลิ้กตามใจฝัน อ่านต่อ

    Weblog นิวเทรนด์ของสังคมยุคใหม่
    "บล็อก" ไม่เพียงแต่จะช่วยเผยแพร่ผลงาน และแสดงความคิดเห็นของคนในหลายๆ กลุ่มอย่างตรงไปตรงมา แต่ยังสร้างสังคมขนาดใหญ่ขึ้นมาอีกด้วย เมื่อเทียบกับการโพสต์ในเว็บบอร์ดแล้ว บล็อกถือว่ามีอัตราการเติบโตที่รวดเร็วกว่ามาก
    อ่านต่อ

    4 อันดับเว็บที่คุณต้องรู้
    นอกเหนือจากปัจจัยสี่แล้ว ความจำเป็นพื้นฐานของมนุษย์ยุคนี้ที่ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้ ก็คงจะเป็นระบบสาธารณูปโภคต่างๆ จำพวก ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ และภาษี ครั้งนี้เราก็จะแวะไปท่องเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวเหล่านี้กัน
    อ่านต่อ



    E-Marketing

    ผลสำรวจโฆษณา อีก 5 ปีพลิกโฉมสู่โลกออนไลน์
    รายงาน "The end of advertising as we know it" ซึ่งจัดทำโดยบริษัท ไอบีเอ็ม ระบุว่า อนาคตของอุตสาหกรรมโฆษณา 5 ปีจากนี้ จะเปลี่ยนแปลงรูปแบบจากช่วง 50 ปีที่ผ่านมา
    อ่านต่อ

    I-Mobile

    ประโยขน์ของมือถือ....ที่หลายคนไม่รู้มีเหตุด่วนเหตุร้ายให้ กด 112 ได้โดยไม่ต้องปลดล็อคปุ่ม หรือ กรณีแบตใกล้จะหมด กด* 3370# สำหรับมือถือ Nokia อ่านต่อ

    Push Mail บริการรับ-ส่งอีเมลผ่านมือถือ
    หลายๆ คนคงคุ้นหูคำว่าสมาร์ทโฟนและพีดีเอโฟน ซึ่งมือถือทั้งสองประเภทต่างก็เป็น "บิสซิเนสโฟน" ด้วยกันทั้งคู่ แต่มีความแตกต่างกันที่ลักษณะการใช้งาน
    อ่านต่อ

    50 เปอร์เซ็นต์ของคนทั่วโลกใช้มือถือ
    ผู้ใช้มือถือทั่วโลกมีทั้งสิ้น 3.3 พันล้านเทียบเท่าได้กับครึ่งหนึ่งของจำนวนประชากรโลก ตั้งแต่ปี 1981 ที่บริษัท Nordic Mobile Telephony ได้เปิดทำการในซาอุดิอาระเบีย สวีเดน และนอร์เวย์ มือถือกลายเป็นอุปกรณ์ที่มีส่วนสำคัญของคน และมียอดขายใหญ่ที่สุดในโลก
    อ่านต่อ

    Computer

    คอมพิวเตอร์ช่วยสุนัขสื่อสารได้
    นักวิทยาศาสตร์ชาวฮังกาเรียนได้ทำงานกับซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ที่ช่วยวิเคราะห์เสียงเห่าของสุนัขที่สามารถช่วยให้คนจำอารมณ์ของสุนัขขั้นพื้นฐานได้ดีขึ้น
    อ่านต่อ

    คอมพิวเตอร์ 75 ดอลลาร์
    นักวิทยาศาสตร์ที่เป็นคนออกแบบคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กสำหรับเด็กไม่มีเงินนั้นกำลังจะจัดตั้งบริษัทเพื่อที่จะพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีราคาเพียง 75 ดอลลาร์
    อ่านต่อ

    ผู้ใช้คอมพ์เอเชียกลุ่มเสี่ยงติดไวรัสมากที่สุดในโลก
    เทรนด์ไมโคร ระบุผู้ใช้คอมพิวเตอร์ในเอเชียเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ติดไวรัสเป็นหมายเลขหนึ่งของโลก เผยไวรัสคอมพิวเตอร์เปลี่ยนรูปแบบใช้วิธีแพร่ระบาดเป็นโซน
    อ่านต่อ

    วันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

    SEO คืออะไร

    Search engine optimization (SEO) แปลว่า การเลือกทางเลือกที่ดีที่สุดในเสิร์จเอนจิน คือ การปรับปรุงเว็บไซต์ด้วยเทคนิคต่างๆ เพื่อให้ติดอันดับต้นๆ ของเว็บเสิร์ชเอนจิน เวลาที่คนเข้ามาค้นหาในเว็บเสิร์ชเอนจิน เช่นที่ กูเกิล ยาฮู หรือ เอ็มเอสเอ็น ด้วยคำสำคัญที่ต้องการค้นหาแล้ว จะปรากฏลิงก์ของเว็บไซต์ของเราเพื่อทำให้ติดอันดับต้นๆ ในหน้าผลการค้นหา ซึ่งการทำ SEO นั้นจะประกอบไปด้วย การปรับปรุง-เพิ่มคำสำคัญ (คีย์เวิร์ด) ในหน้าเว็บไซต์ การปรับแต่งหน้าเว็บไซต์ให้มีขนาดเล็ก การใช้ meta tag และวิธีอื่นๆ ควบคู่กันไปเพื่อให้ง่ายต่อความเข้าใจเกี่ยวกับ SEO นั้นก็เหมือนการทำการตลาดโดยการทำความเข้าใจว่าอัลกอริทึมของเสิร์ชเอนจินนั้นทำงานอย่างไร และ คำๆไหนที่ผู้เยี่ยมชมมีความต้องการที่จะค้นหา เพื่อช่วยเลือกเว็บเพจที่ตอบสนองความต้องการและความสนใจของผู้ทำการค้นหา

    การสร้างเว็บเพจโดยการใช้เทคนิค SEO นั้นก็ไม่ได้หมายถึงการสร้างเนื้อหาที่เป็นที่ชื่นชอบต่อเสิร์ชเอนจินเพียงอย่างเดียวโดยที่ไม่คำนึงถึงผู้เยี่ยมชม ซึ่งวิธีการทำ SEO นั้นอาจจะมีการเกี่ยวข้องกับการปรับปรุงโค๊ดของเว็บไซต์, การนำเสนอ, โครงสร้างของเว็บไซต์ และสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งของการทำ SEO ก็คือเนื้อหาที่มีประโยชน์ และจะต้องเป็นเนื้อหาต้นฉบับ

    หลักในการทำ SEO นั้นเป็นเทคนิคในการทำเว็บไซต์ ให้ติดอันดับต้นๆ ด้วยคำสำคัญโดยเน้นให้ผลของคำค้นปรากฏอยู่ในส่วนของ Natural Search Result (Organic Search Result) หรือในส่วนของผลลัพธ์ทางด้านซ้ายมือของเว็บเสิร์ชเอนจิน

    ศัพท์น่ารู้
    1. Rank = อันดับ ในที่นี้คืออันดับของการแสดงผลลัพธ์ที่ได้จากการค้นหาด้วยkeyword ต่างๆ ใน Search Engines
    2. Keyword = คำค้น ที่ใช้ค้นหาสิ่งที่ต้องการจาก Search Engines
    3. Search Engines = ผู้ให้บริการด้านการสืบค้นข้อมูลบนอินเตอร์เน็ต เช่น กูเกิ้ล (Google) ยาฮู (Yahoo) Live (MSN)
    4. Algorithm = อัลกอลิธึม คือ วิธีการดำเนินการอย่างมีโครงสร้างในแบบแผนที่กำหนดไว้

    ไม้ตาย SEO ล่าสุด

    1. วิเคราะห์เว็บไซต์ SEO
    2. ปัจจัยภายในเว็บ SEO
    3. ปัจจัยภายนอกเว็บ SEO
    4. ติดตามผล SEO

    อื่นๆที่เกี่ยวข้อง
    1. การเลือกโฮสติ้ง ( Hosting ) ต้องไม่โดนแบน ต้องเป็น Hosting ที่มีความเสถียร ไม่ล่มบ่อยๆ รวมทั้ง ออกแบบเว็บไซต์ ต้องไม่มี ลิงค์เสีย
    2. อายุของโดเมน ( domain )จดโดเมน ไว้นานจะดีกว่าจดใหม่ โดเมน ต้องไม่มีการย้ายบ่อยๆ และ Domain ที่ใช้ควรมีชื่อสอดคล้องกับคีย์เวิร์ดที่ทำ หรือให้มีสับโดเมนที่มีความหมายเหมือนคีย์เวิร์ด
    3. ออกแบบเว็บไซต์ ( website design ) ควรมีโคดสั้นๆ ไม่ควร ทำเว็บไซต์ ใช้ีแฟกช์มากเกินไป หรือมีโคดแฟสช์อยู่ตอนต้น design website ที่มีลิงค์ออกมากๆ จะไม่ดีต่อ SEO
    4. ทำบล็อก blog ทำให้อันดับของเว็บไซต์เพิ่มได้

    Search Engine ที่สำคัญ Submit directory
    Yahoo Altavista AlltheWeb MSN Google AOL
    iWon.com Exactseek Jayde scrubtheweb Dmoz


    Link : SEO Tool รวบรวม Tool ทั้งหมดที่ใช้ในการวิเคราะห์ครบถ้วน
    http://www.thaihostsave.com/seo-tool.php

    ทำไมต้องทำ SEO

    ถ้าหากคุณเปิดบริษัทขึ้นมาแห่งหนึ่ง แต่ไม่มีใครรู้จักบริษัทของคุณเลย ไม่มีลูกค้า ไม่มึยอดขาย แน่นอนว่าบริษัทที่เปิดขึ้นมาไม่นานก็ต้องปิดกิจการลง เช่นเดียวกับเว็บไซต์ คงไม่มีประโยชน์อะไร ถ้าเว็บไซต์ที่พัฒนาขึ้น ไม่เป็นที่รู้จักและไม่มีคนเข้ามาชม โดยเฉพาะเว็บไซต์ประเภท e-commerce ที่เน้นงานด้านการขายเป็นหลัก ดังนั้น เมื่อพัฒนาเว็บไซต์ขึ้นมาแล้ว ต้องประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ให้เป็นที่รู้จักด้วย ซึ่งการประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ที่ใช้การลงทุนน้อย ได้ผลเร็ว คือการทำ SEO เพราะผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตส่วนใหญ่จะค้นหาข้อมูลที่ต้องการ รวมถึงค้นหาสินค้าและบริการต่าง ๆ ที่เขาสนใจจาก Search Engines

    Search Engine Optimization ช่วยให้คุณ
    1. เพิ่มยอดขายสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์
    2. ทำให้เว็บไซต์ที่พัฒนาขึ้นเป็นที่รู้จัก
    3. เพิ่มโอกาสทางการค้า
    4. เพิ่มผลกำไรทางธุรกิจ
    5. ลดความเสี่ยง ทำให้องค์กรประสบความสำเร็จ

    ศัพท์น่ารู้
    e-commerce = เว็บไซต์ที่พัฒนาขึ้นเพื่อขายสินค้า หรือบริการ

    กระบวนการทำงานของ Search Engine

    โดยปกติแล้ว Search Engine จะมีเครื่องมือที่ชื่อว่า Robot (หุ่นยนต์) ในการสืบค้นเว็บไซต์ต่าง ๆ เพื่อนำมาจัดเก็บในระบบฐานข้อมูลด้วยการทำ Index โดย Robot จะเดินทางจากเว็บหนึ่งผ่าน Hyperlink ที่มีอยู่ในเว็บไซต์นั้น ๆ

    การเรียงลำดับผลลัพธ์จากการค้นหา
    Search Engine มีอัลกอลิธึ่มในการจัดลำดับผลลัพธ์การค้นหาแตกต่างกันไป ซึ่งโดยปกติแล้วส่วนมากจะเรียงจากความสัมพันธ์กับคำค้นที่ใช้ค้นหา และมีปัจจัยอื่น ๆ อีก เช่น ประเทศ ภาษา ขนาดของไฟล์ จำนวนผู้เข้าชม ความถี่ในการอัพเดทข้อมูล จำนวนลิงค์ เป็นต้น

    ศัพท์น่ารู้
    1. Robot = หุ่นยนต์ ในที่นี้หมายถึงหุ่นยนต์ที่เป็นเครื่องมือของ Search Engine ใช้ติดตามข้อมูลต่าง ๆ สำหรับจัดเก็บในระบบฐานข้อมูล
    2. Index = การรวบรวมข้อมูล และจัดเก็บสำหรับการสืบค้น
    3. Hyperlink = การเชื่อมโยงหลายมิติ หรือ เส้นทางการเดินทางของข้อมูลจาหน้าหนึ่งไปอีกหน้าหนึ่ง

    การแบ่งประเภทของการทำ SEO

    การทำ SEO ถูกจำแนกออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ดังนี้

    White Hat SEO (SEO หมวกสีขาว)
    การทำ SEO ประเภท White Hat คือ การทำเว็บคุณภาพ และทำ SEO โดยยึดแนวปฏิบัติต่าง ๆ ที่ Search Engine หลาย ๆ ค่ายแนะนำไว้ ซึ่งควรมีลักษณะดังนี้

    - หลีกเลี่ยงการทำ Hidden text หรือ Hidden Links
    - หลีกเลี่ยงการทำ Doorway
    - ไม่ทำ Spam Keyword
    - ไม่ทำ Duplicate Content
    - ไม่ทำ Cloaking หรือ Sneaky Redirects

    Black Hat SEO (SEO หมวกสีดำ)
    การทำ SEO ประเภท Black Hat คือการทำ SEO โดยใช้เทคนิคต่างๆ ที่ไม่เป็นไปตามแนวปกิบัติเพื่อให้ได้ประโยชน์ ทาง SEO โดยไม่สนใจถึงความเหมาะสม ตามลักษณะที่ตรงข้ามกับการทำ White Hat SEO ทุกประการ(ไม่แนะนำอย่างยิ่ง)
    นอกจากหมวกขาวและหมวกดำแล้ว ในปัจจุบันยังมีการแบ่งประเภทแบบไม่เป็นทางการอีก 1 ประเภท คือ Gray Hat SEO (SEO หมวกสีเทา) ที่ทำ SEO แบบกึ่งหมวกขาวและหมวกดำ ตัวอย่างเช่น การทำ Spam Keyword โดยการแต่งประโยคที่มี Keyword อยู่ในประโยคมาก ๆ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการทำ Black Hat SEO จะได้ผลเร็ว แต่ก็มักจะได้ผลแค่ระยะสั้น ๆ จึงขอสนับสนุนให้นัก SEO ทุกท่านทำเว็บด้วย White Hat SEO เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาว

    ศัพท์น่ารู้
    1. Hidden Text คือ การซ่อนข้อความ ไม่ให้เห็นโดยมนุษย์แต่สามารถเห็นได้โดย Robot ของ Search Engine เช่น การทำสีตัวอักษรกับสีพื้นหลังเป็นสีเดียวกัน
    2. Hidden Links คือ การซ่อนลิงค์ ไม่ให้เห็นโดยมนุษย์แต่สามารถเห็นได้โดย Robot ของ Search Engine เช่น การใช้ style=”display:none” ครอบแท็กของ Hyperlinks
    3. Spam Keyword คือ การทำหน้าเว็บที่มีแต่ Keyword มากมาย
    4. Duplicate Content คือ การคัดลอกหน้าเว็บให้เหมือนกัน เพื่อเพิ่มจำนวนหน้าของเว็บแบบไม่มีคุณภาพ
    5. Doorway คือ การส่ง Robot ของ Search Engine ไปในหน้าที่มีแต่ Keyword ก่อนแสดงผลหน้าเว็บที่มีเนื้อหา
    6. Cloaking คือ การทำหน้าเว็บที่แสดงผลแตกต่างกัน เมื่อถูกเรียกโดย Robot ของ Search Engine และผู้เข้าชมเว็บทั่ว ๆ ไป (แสดงผลให้คนอย่างหนึ่ง ให้บอทอย่างหนึ่ง)
    7. Sneaky Redirects คือ การเปลี่ยนการแสดงผลจากหน้าหนึ่ง ไปอีกหน้าหนึ่งอย่างรวดเร็ว

    การตั้งชื่อโดเมน สำหรับ SEO

    เว็บไซต์ที่มีชื่อโดเมนตรงกับคำค้น มักจะแสดงผลลัพธ์จากการค้นหาโดย Search Engine ในตำแหน่งที่ดี ตรงกับคำพูดที่ว่า “แค่ชื่อดี มีชัยไปกว่าครึ่ง” ชื่อโดเมน หรือ โดเมน คือ ชื่อที่ใช้เรียกแทนตำแหน่งที่ตั้งของเครื่องคอมพิวเตอร์ในระบบเครือข่าย แทนการใช้หมายเลข IP Address ถ้าจะให้เปรียบเทียบแล้ว IP Address คือ บ้านเลขที่ แต่ชื่อโดเมน คือ ชื่อบ้านหรืออาคาร และแน่นอนว่าถ้ากล่าวถึงชื่อโดเมนแล้ว สิ้งที่คู่กัน คือ นามสกุลโดเมนต้องถูกกล้าวถึงด้วยเช่นกัน นามสกุลของโดเมนเนมแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ

    - gTLD (Generic Top Level Domain) คือ นามสกุลโดเมนทั่ว ๆ ไป เช่น .com .net .org .biz .info
    - ccTLD (Country Code Top Level Domain) คือ นามสกุลโดเมนของประเทศ หรือ ภูมิภาค เช่น .in.th .co.uk

    ชื่อโดเมน และ การทำ SEO

    ชื่อโดมนที่เป็น ccTLD จะส่งผลดีด้าน SEO กับคำค้นที่เป็นภาษาของประเทศหรือภูมิภาคนั้น ๆ ชื่อโดเมนที่เป็น gTLD จะส่งผลดีด้าน SEO กับการค้นหาโดย Search Engine ทั่วโลก โดเมนที่ใคร ๆ ต้องการ และได้รับความนิยมสูง คือ .com รองมาคือ .net และ .org ตามลำดับ โดเมนที่จดทะเบียนมาแล้วหลาย ๆ ปี จะมีผลดีด้าน SEO มากกว่าโดเมนที่เพิ่งจดทะเบียนใหม่ การตั้งชื่อโดเมนให้ตรงกับคำค้น จะทำให้ผลลัพธ์จากการค้นหาโดย Search Engine อยู่ในตำแหน่งที่ดี

    ศัพท์น่ารู้
    1. IP Address คือ หมายเลขที่ตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ในระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต

    การออกแบบเว็บไซต์ สำหรับ SEO

    ก่อนจะลงมือทำ SEO ด้วยเทคนิควิธีอื่น ๆ สิ่งแรกที่ไม่ควรมองข้าม คือ เริ่มจากจุดเล็ก ๆ ภายในเว็บไซต์ที่พัฒนาขึ้นก่อน

    การออบแบบเว็บไซต์ที่ดี ควรมีลักษณะดังนี้
    1. ควรออกแบบเว็บไซต์ให้มี Navigation สำหรับเชื่อมโยงทั่วถึงกันแต่ละหน้า เพื่อให้ Robot ของSearch Engine สามารถ Crawl ได้อย่างทั่วถึง
    2. ควรจัดทำ Sitemap ของเว็บไซต์ ควรใช้ Header Tags สำหรับหัวข้อที่สำคัญ
    3. ควรจัดทำเนื้อหาที่ชัดเจน มีการเน้นจุดต่าง ๆ ที่เป็นข้อมูลสำคัญ ด้วยการใช้ตัวอักษรตัวหนา ตัวเอียงหรือขีดเส้นใต้ ตามความเหมาะสม
    4. ควรใช้ Title Tags สำหรับ Hyperlinks และ Alt Tags สำหรับรูปภาพ
    5. ควรควบคุมปริมาณ Hyperlinks ไม่ควรเกิน 100 Links ต่อ 1 หน้า
    6. ควรควบคุมขนาดการแสดงผลหน้าเว็บไซต์(ทั้ง Text และ Images และ Multimedia ทั้งหมด) ให้มีขนาดที่เหมาะสม

    ศัพท์น่ารู้
    1. Navigation คือ หัวข้อ เมนู หรือ รายการต่าง ๆ ที่เป็นหน้าหลัก ๆ ของเว็บไซต์
    2. Crawl คือ การเดินทางของ Robot ซึ่งจะเดินทางไปตามการเชื่อมโยงต่าง ๆ
    3. Sitemap คือ แผนผังของเว็บไซต์ (คล้าย ๆ กับการทำ สารบัญ)
    4. Header Tags คือ Tags ที่ใช้กำหนดหัวเรื่อง หรือหัวข้อ
    5. Alt Tags หรือ Alternative Tags คือ Tags ที่ใช้แสดงข้อความเมื่อไม่สามารถแสดงรูปภาพได้เป็น Attribute